21/3/55

การแข็งตัวของเลือด

loading...
การแข็งตัวของเลือด (Blood coagulation หรือ Blood clotting)
               เมื่อเนื้อเยื่อได้รับอันตรายและหลอดเลือดมีการฉีกขาด เลือดจะมีการแข็งตัวเพื่ออุดเส้นเลือดเป็นการป้องกันไม่ให้สูญเสียเลือดจากร่างกาย กลไกของการแข็งตัวของเลือดมี 3 ระยะ คือ
                                         ระยะที่ 1 เกิด Thromboplastin ขึ้น ซึ่งได้มาจากการที่เมื่อมีเลือดออกจากเส้นเลือด เลือดไหลผ่านเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งมีเกล็ดสะสมอยู่ เกล็ดเลือดจะทำปฏิกิริยากับ แคลเซี่ยม และโปรตีนในเลือด ทำให้เกิด Plasma thromboplastin
                                         ระยะที่ 2 Thormboplastin ทำให้ Prothrombin (ที่ได้มาจากตับโดยมี Vitamin K เป็นตัวสำคัญในการผลิต) เปลี่ยนเป็น Thrombin
                                         ระยะที่ 3 Thromboplastin ไปย่อยอณูของไฟบริโนเจน ( Fibrinogen) ซึ่งเป็นโปรตีนใน Plasma ให้แตกออกเป็น fibrin เป็นเส้นใยเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ยึดเกาะของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดเลือดแข็งเป็นลิ่มเลือด

สาเหตุที่ทำให้เลือดแข็งตัวยาก
                           1. มีปริมาณของเกล็ดเลือด (Platelets) น้อยกว่าปกติที่เรียกว่า Thrombocytopenia คือมีจำนวนน้อยกว่า 100,000 /ลบ . มม.
                           2. สารกันเลือดแข็งต่าง ๆ เช่น antithrombin, antiprothrombin และเฮพาริน ซึ่งมีอยู่ในเนื้อเยื่อและเลือดที่ไหลเวียนเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัว
                           3. การขาด Vitamin K ทำให้ตับไม่สามารถผลิต Prothrombin ได้อย่างเพียงพอซึ่งอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้า
                           4. Fibrinolytic system เป็นระบบที่คอยละลาย Fibrin ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นที่ผนังของหลอดเลือดตลอดเวลา และเป็นระบบเดียวกันที่ทำให้ลิ่มเลือดละลาย

            ฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) เป็นกลุ่มของโรคที่มีอาการเลือดออกง่ายและหยุดยากที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดพบเป็นเพศชายเกือบทั้งหมด ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มี 3 ชนิด (type) ที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย คือ Classicals hemophilia หรือ Hemophilia A มีการขาด Anti - hemophilic globulin

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

รายการบล็อกของฉัน